The Sims 4 Standard กับ Digital Deluxe ต่างกันอย่างไร ?

อีกหนึ่งคำถามโลกแตก เมื่อผู้เล่นใหม่อยากจะดาวน์โหลด The Sims 4 ก็ต้องตามมาด้วยคำถาม The Sims 4 Standard กับ Digital Deluxe ต่างกันอย่างไร ? เอาเป็นว่าเรามีคำตอบสำหรับคำถามนี้มาให้แล้วค่ะ

The Sims 4 Standard กับ Digital Deluxe ตัวเกมพื้นฐานนั้นไม่มีอะไรต่างกัน จะมีก็แต่ Digital Deluxe นั้นจะเพิ่มคอนเทนท์ดิจิทัลเข้ามา อย่าง สีเพนท์หน้า ลูกบอลเลเซอร์ บาร์ทาทิกิพ่นไฟ ชุดออกงานปาร์ตี้ หมวกออกงานปาร์ตี้ ของตกแต่งงานปาร์ตี้ เฟอร์นิเจอร์สำหรับจัดงานปาร์ตี้ และเพลงแด๊นซ์ใหม่ ๆ

แต่ก่อนอื่น ทุกคนที่เข้ามาต้องรู้ก่อนว่า ปัจจุบัน The Sims 4 Standard เปิดให้ดาวน์โหลดฟรีทุกแพลตฟอร์ม ทั้ง Origin, EA App, Stream, Xbox, Playstation ฉะนั้น ก็จะเหลือตัวเลือกสำหรับผู้ที่อยากเล่น Digital Deluxe แค่การกดซื้อเพิ่มอีก 510.- บาท เท่านี้คุณก็จะมี The Sims 4 Base Game เวอร์ชั่นอัปเกรดคอนเทนท์ดิจิทัลเป็นของตัวเองแล้ว

The Sims 4 Standard

ภาพรวมของ The Sims 4 Standard หรือ Base Game: ตามจริงการมี The Sims 4 แค่ภาคหลักไม่ใช่เรื่องที่แย่อะไร เพราะโดยรวมตัวเกมค่อนข้างครอบคลุมความต้องการขั้นพื้นฐานหมดแล้ว ทั้งการกินอยู่ การใช้ชีวิต การทำงาน (แบบไม่ได้ตามซิมส์ไปยังที่ทำงาน) หาเพื่อน สร้างครอบครัว บวกกับตอนที่เปิดให้ดาวน์โหลดฟรีกันได้ทั่วโลกนั้น The Sims 4 ยังได้มีการอัปเดตโค้ดเกมพื้นฐานครั้งใหญ่ ให้มีทั้งความหลากหลายทางเพศ (LGBTQIA2+) การเลือกคำสรรพนามที่เราสามารถปรับแต่งคำสรรพนามได้เอง การพูดคุยที่ละเอียดมากขึ้นอย่างความต้องการและความกลัว (Wants & Fears) ความชอบและไม่ชอบ (Likes & Dislikes) รวมถึงการเคลื่อนไหวต่าง ๆ ของซิมส์ก็ดูมีมิติมากยิ่งขึ้น

แล้ว The Sims 4 Standard หรือ The Sims 4 Base Game มีอะไรบ้าง ?

The Sims 4 Base Game นอกจากฟังก์ชันพื้นฐานที่ถูกอัปเกรดจนทันสมัย คุณจะได้พบกับโลก เมือง หรือ Map พื้นฐาน (แล้วแต่ใครจะเรียก สะดวกปากแบบได้ก็เรียกแบบนั้น) ที่มีให้เลือกถึง 3 เมืองด้วยกัน นั่นก็คือ Willow Creek, Newcrest และ Oasis Springs

ณ เมือง Willow Creek คุณจะได้พบกับเมืองที่เขียวชอุ่ม สงบสุขและร่มรื่น เป็นที่อยู่อาศัยของเหล่าชาวนาผู้ดีทางใต้ โดยเมือง Willow Creek เป็นการผสมผสานที่หลากหลายของประเพณีอันยาวนาน ความยิ่งใหญ่ที่แสนถ่อมตน และการต้อนรับที่อบอุ่นจากพื้นโลกอย่างแท้จริง

Willow Creek มีพื้นที่ทั้งหมด 21 แปลง พื้นที่ใหญ่สุดคือ 50×50 มี 2 แปลงคือ Oakenstead (ที่อยู่อาศัย) กับสวนสาธารณะ Magnolia Blossom มีเพื่อนบ้านชื่อดังอย่างตระกูล Goth และ Pancakes

ณ เมือง Oasis Springs คุณจะได้พบกับความงามอันเรียบง่ายของเมืองทะเลทรายตะวันตก สวรรค์แห่งวัฒนธรรมผสมผสานแห่งนี้รายล้อมไปด้วยต้นปาล์มที่พุ่งสูงขึ้นนับไม่ถ้วน และให้สีสันที่สดใสผ่านภูมิทัศน์อันเขียวชอุ่มได้อย่างไม่น่าเชื่อ สำหรับใครที่รักการผ่อนคลายด้วยแสงแดดอ่อน ๆ สายลมอุ่น ๆ ต้องเลือกอยู่ที่นี่เลย

Oasis Springs มีพื้นที่ทั้งหมด 21 แปลง พื้นที่ใหญ่สุดคือ Landgraab (ที่อยู่อาศัย) และ Desert Bloom (สวนสาธารณะ) มีเพื่อนบ้านชื่อดังอย่างตระกูล Landgraab และ Caliente

ณ เมือง Newcrest ถือเป็นเมืองใหม่โล่งโจ้ง ไม่มีสิ่งก่อสร้างที่เข้าอยู่อาศัยได้จริง มีเพียงตึกรามบ้านช่องจำลองที่ถูกออกแบบมาให้ใกล้เคียงกับเมือง Willow Creek เมืองนี้ถือเป็นเมืองที่หลายคนชอบพาซิมส์มาอยู่อาศัยเมื่อไม่มีที่ไป บ้างก็สร้างบ้านสร้างเมืองขึ้นใหม่ยุ่บยั่บหนาแน่น ตามเจตจำนงค์ที่ตัวเกมให้มาแต่เดิม (จริง ๆ แล้ว ทีมงานน่าจะอยากบอกว่า เอาเมืองโล่ง ๆ ไปเล่นเถอะ อยากสร้างอะไรก็สร้างไป ฮา)

สิ่งก่อสร้างและเฟอร์นิเจอร์

ประเภทสิ่งก่อสร้างอย่างเฟอร์นิเจอร์ที่ตัวเกมหลักให้มานั้นมีอยู่อย่างหลากหลายรูปแบบ หลากหลายสไตล์ โดยรวมก็ถือว่าเพียงพอสำหรับการเล่นทั่วไป ยกตัวอย่างเช่น หากคุณอยากแต่งบ้านสไตล์โมเดิร์น สไตล์วิคทอเรียน หรือสไตล์โกธิค ก็สามารถทำได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องลงม็อดเพิ่ม แต่ถ้าหากอยากลงเพิ่มก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร

โหมดสร้างตัวละคร หรือโหมด CAS

นอกจากนี้ ยังมีโหมดสร้างตัวละคร ที่เราสามารถสร้างตัวละครขั้นพื้นฐานได้อย่างละเอียด สามารถปรับแต่งรูปร่างหน้าตา สีผิว ได้อย่างหลากหลาย รวมถึงขนตามร่างกาย รายละเอียดและตำหนิผิว ทั้งนี้ ตัวเกมได้ให้เสื้อผ้าพื้นฐานมาให้เยอะพอสมควร แต่หลาย ๆ คนก็รู้สึกว่ามีหลายชิ้นยังไม่ถูกใจ ก็อาจซื้อภาคเสริมเพิ่มเติม หรือใช้วิธีลงม็อดแทนได้

The Sims 4 Digital Deluxe

สำหรับ The Sims 4 Digital Deluxe จะเป็นการจ่ายเพิ่มอีก 510.- บาท เพื่อให้ตัวเกมหลักเราเป็นเวอร์ชั่นอัปเกรดจากปกติ โดยสิ่งพิเศษที่เพิ่มเข้ามาคือ คอนเทนท์ดิจิทัลต่าง ๆ อย่าง สีเพนท์หน้า ลูกบอลเลเซอร์ บาร์ทาทิกิพ่นไฟ ชุดออกงานปาร์ตี้ หมวกออกงานปาร์ตี้ ของตกแต่งงานปาร์ตี้ เฟอร์นิเจอร์สำหรับจัดงานปาร์ตี้ และเพลงแด๊นซ์ใหม่ ๆ ดังที่กล่าวไปแล้วในตอนต้น

สำหรับใครที่มองว่าคุ้มก็คุ้ม เพราะได้ของแต่งที่มาจากทีมผู้พัฒนาเองโดยเฉพาะ รวมถึงได้เพลงใหม่ ๆ มันส์ ๆ ที่ทีมงานค่อนข้างลงทุนในการทำตรงส่วนนี้ แต่สำหรับใครที่มองว่าไม่คุ้มก็ไม่ต้องอัปเกรด เพราะในกรณีที่คุณไม่ได้คิดจะเล่นคอนเทนท์นี้บ่อยขนาดนั้น ก็ไม่ได้ถือว่าจำเป็น แต่ถ้าจะซื้อไว้เฉย ๆ ล่ะก็ อันนี้ก็อยู่ที่ความพึงพอใจของใครของมันแล้วล่ะ

เอาเป็นว่า เมื่ออ่านมาจนถึงตรงนี้ ทุกคนก็น่าจะเข้าใจกันแล้วนะว่า The Sims 4 Standard กับ Digital Deluxe ต่างกันอย่างไร